Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...
Powered by Blogger.
RSS

โรคพยาธิเม็ดเลือดในน้องหมา โรคอันตรายที่ต้องระวัง

วันนี้เรามาทำความรู้จักกับโรคที่น่ากลัวมากๆสำหรับน้องหมาของเรากันครับ เพราะมีหลายๆคนที่ต้องเสียใจกับโรคๆนี้กันมามากต่อมาก ถ้าหากว่าไม่อยากให้น้องหมาของเราต้องจากไปเร็วกว่ากำหนด ก็ลองศึกษาและสังเกตุอาการจากน้องหมาของเราดูครับ ซึ่งรายละเอียดและอาการของโรคนี้ก็จะมีดังนี้ครับ


โรคพยาธิเม็ดเลือดในสุนัขเกิดจากเชื้อโปรโตซัว,ริคเก็ตเซียและแบคทีเรียแล้วแต่ชนิดของเชื้อสาเหตุ แต่ละชนิดจะมีความรุนแรงแตกต่างกัน แต่ที่มีลักษณะคล้ายๆกัน คือส่วนมากน้องหมาของเราจะติดโรคโดยเห็บ โดยมีเชื้อดังนี้

โรคจากเชื้อริคเก็ตเซีย
Ehrlichia canis, E.chaffeensis และ Anaplasma phagocytophila
Haemobartonella canis
โรคจากโปรโตชัว
Babesia canis และ B.gibsoni
Hepatozoon canis
โรคจากแบคทีเรีย
Bartonella vinsonii


Babesiosis (B.canis&B.gibsoni) เชื้อ Babesia spp. จะอาศัยอยู่ในเม็ดเลือดแดง คล้ายกับเชื้อที่ทำให้เกิดโรคมาเลเรียในคนเมื่อเชื้อเพิ่มจำนวนจะทำให้เม็ด เลือดแดงของสัตว์ถูกทำลาย และหากน้องหมาเราเป็นก็มักพบอาการ ดังนี้

โลหิตจาง (anemia) เยื่อเมือกจะซีด เหงือกซีด
ไข้สูง
ซึม เบื่ออาหารหรือไม่กินอาหาร
ลูกสุนัขอายุน้อยที่ไม่มีภูมิคุ้มกันจะมีอัตราการตายสูงมาก
กรณีป่วยเรื้อรัง อาจพบอาการดีซ่าน เนื่องจากสภาพเม็ดเลือดถูกทำลายอย่างมากและตับได้รับความเสียหายจากการที่เลือดไปเลี้ยงตับไม่พอทำให้เซลตับตายจากการขาดเลือด
อาจพบภาวะไตวายแทรกซ้อนได้เช่นกัน หากเลือดไปเลี้ยงไปไม่พอ


Hepatozoonosis (H.canis) เชื้อ Hepatozoon spp จะอาศัยอยู๋ในเม็ดเลือดขาวชนิด Neutrophils ซึ่งจะมีผลทำให้ภูมิคุ้มกันของสัตว์ลดลงจากปกติ เนื่องจากเม็ดเลือดขาวดังกล่างจะถูกทำลาย และสูญเสียประสิทธิภาพในการป้องกันตัวเองจากเชื้อภายนอก อาการที่มักพบคือ

มีไข้ขึ้นๆลงๆ และไม่ค่อยตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะ
ผอมแห้ง น้ำหนักลด เบื่ออาหาร
โลหิตจาง
มีอาการเจ็บตามกล้ามเนื้อที่สัมผัส มักพบอาการเจ็บขาหรือท่าเดินผิดปกติ ระยะยาวอาจพบกล้ามเนื้อฝ่อลีบตามมา
มักจะพบการติดเชื้ออื่นๆร่วมด้วย และอาจเป็นสาเหตุเริ่มต้นของโรคอื่นๆที่อาจพบภายหลัง
โดยมากเชื้อ Hepatozoon canis มักเป็นเชื้อแฝงในร่างกายเมื่อสัตว์อ่อนแอจะทำให้สัตว์แสดงอาการของโรคออกมาได้


Ehrlichiosis (Ehrlichia canis,E.chaffeensis และ Anaplasma phagocytophila) เชื้อ Ehrlichia spp. จะอาศัยอยู่ในเม็ดเลือดขาว ความรุ่นแรงของโรคจะใกล้เคียงกับโรค babesiosis เป็นโรคที่พบได้บ่อยมากที่สุดในสุนัข อาการของโรคที่มักพบคือ

โลหิตจาง เกล็ดเลือดต่ำ
ไข้สูง
มีจุดเลือดออกตามเยื่อเมือก และผิวหนังตามส่วนต่างๆของร่างกาย
ต่อมน้ำเหลืองบวม
ซึม, เบื่ออาหาร น้ำหนักลด และติดเขื้อแทรกซ้อนอื่นๆได้ง่าย
มักทำให้มีจุดเลือดออกที่จอประสาทตา
โรคจะมีความรุนแรงในสัตว์อายุน้อย โดยทำให้อัตราการตายสูง ถ้าไม่ได้รับการรักษาหริอวินิจฉัยอย่างทันที


Haemobartonellosis (Haemobatonella canis) เชื้อ Haemobartonella spp. จะอาศัยอยู่บนผิวด้านนอกของเม็ดเลือดแดง และทำให้เม็ดเลิอดแดงมีลักษณะรูปร่างผิดปกติไป โดยทั่วๆไปจะมีความรุนแรงต่ำกว่าเชื้ออื่นๆในกลุ่มเดียวกัน ปกติโรคนี้พบในแมวได้มากกว่าในสุนัข อาการที่มักพบมีดังนี้

โลหิตจาง มีไข้ ซึม (ปกติไม่ค่อยแสดงอาการอะไรให้เห็น ถ้าร่างกายแข็งแรง)
มักพบร่วมกับการติดเชื้ออื่นเมื่อร่างกายอ่อนแอหรือภูมิคุ้มกันต่ำ
สัตว์ที่มีสุขภาพแข็งแรง ภูมิคุ้มกันปกติจะควบคุมปริมาณของเชื้อในร่างกาย
การักษาใช้ยาปฏิชีวะนะ


Bartonellosis (Bartonella vinsonii) เชื้อ Bartonella spp. อาศัยอยู่ในเม็ดเลือดแดง ปกติไม่ค่อยพบโรคนี้ อาการที่มักพบ มีดังนี้

ซึม เบื่ออาหาร
อาจพบอาการเจ็บขา
จพบการอักเสบของลิ้นปิดเปิดหัวใจ
อาจพบอาการเยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ
อาการมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับการแพร่กระจายของเชื้อ


การป้องกันและควบคุมโรคพยาธิเม็ดเลือดในสุนัข

โรคนำโดยเห็บ ดังนั้นวิธ๊การป้องกันโรคที่ดีที่สุด คือ การควบคุม ป้องกันและกำจัดเห็บหมัด
ตรวจสุขภาพสุนัขเป็นประจำ (ตรวจเลือด) ทุกๆ 3-6เดือน
ไม่ควรให้ยาป้องกัน เนื่องจากเขื้อแต่ละตัวจะใช้ยาที่แตกต่างกัน จึงไม่ควรที่ใช้ยาเนื่องยามีผลข้างเคียงอื่นๆต่อตัวสัตว์ นอกจากการรักษาเมื่อได้รับการวินิจฉัยแล้วเท่านั้น

*** เห็นแล้วใช่ไหมครับว่าโรคนี้มันน่ากลัวขนาดไหน ซึ่งเจ้าของบล็อกเองก็เจอมาแล้วกับตัวเอง น้ำตาร่วงกันเลยทีเดียวครับที่ต้องเสียน้องหมาสุดที่รักไปเพราะไอ้โรคนี้ครับ หวังว่าเพื่อนๆที่อ่านบทความนี้คงตระหนักถึงความอันตรายของโรคนี้นะครับ หากน้องหมามีอาการดังกล่าวควรรีบพาไปหาสัตวแพทย์โดยด่วนนะครับ เพราะไม่งั้นอาจเสียน้ำตาเหมือนเจ้าของบล็อกครับ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 comments:

Post a Comment